ลักษณะคุณภาพชีวิตและปัจจัยสัมพันธ์ในผู้ป่วยเด็กโรคธาลัสซีเมียชนิดพึ่งพาเลือดในโรงพยาบาลนครพิงค์
กนิษฐา มั่นเข็มทอง, จุฑามาศ สิงหราช, ชมภูพัชน์ อุชุโกศลการ, Benyapa Bussabongthong, ปัญญาวัฒน์ วงศ์จารุวัฒน์, ศุภกฤษฎิ์ เทนุรักษ์กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลนครพิงค์
บทคัดย่อ
บทนำ ธาลัสซีเมียเป็นโรคเม็ดเลือดแดงแตกเรื้อรัง มีความผิดปกติในสร้างฮีโมโกลบิน ความรุนแรงแตกต่างกันตามชนิดของโรค หากเป็นชนิดรุนแรงผู้ป่วยจำเป็นต้องรับเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดอาการซีด ตับม้ามโต และให้เติบโตปกติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันในด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม
วัตถุประสงค์ ศึกษาลักษณะคุณภาพชีวิตและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในผู้ป่วยเด็กโรคธาลัสซีเมียชนิดพึ่งพาเลือดที่โรงพยาบาลนครพิงค์
วิธีการศึกษา การศึกษาวิจัยแบบภาคตัดขวางเชิงวิเคราะห์ (Cross-sectional analytical study) ในผู้ป่วยเด็กธาลัสซีเมียชนิดพึ่งพาเลือด อายุ 2-15 ปี พร้อมผู้ปกครองที่มารับบริการเติมเลือดแบบ One day service แผนกกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลนครพิงค์ ระหว่างวันที่ 2-24 มีนาคม 2566 จำนวน 70 ราย โดยใช้แบบสอบถาม คุณภาพชีวิตสำหรับเด็ก Pediatric Quality of Life InventoryTM (PedsQLTM) รุ่นที่ 4.0 ฉบับภาษาไทย โดยผู้ป่วยที่อายุมากกว่า 4 ปีจะตอบแบบสอบถามเอง และหากอายุน้อยกว่า 4 ปี ผู้ปกครองจะตอบแบบสอบถามแทน และแบบคัดกรองภาวะซึมเศร้าทั้งในผู้ป่วยและผู้ปกครอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และใช้ multivariable linear regression ในการวิเคราะห์ปัจจัยที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิต
ผลการศึกษา ผู้ป่วยเด็กโรคธาลัสซีเมียชนิดพึ่งพาเลือดกลุ่มตัวอย่างพบเพศชายร้อยละ 51.43 ส่วนใหญ่อายุ 8–12 ปี พบชนิด β-thalassemia/E disease มากที่สุด (ร้อยละ 55.7) ต้องรับเลือดทุก < 4 สัปดาห์ (ร้อยละ 80) มีปริมาณเหล็กสะสมสูง ≥ 2,500 ng/ml (ร้อยละ 44.29) และรับยาขับเหล็กร้อยละ 94.29 พบว่ามีคะแนนคุณภาพชีวิตเฉลี่ยทั้ง 4 ด้านอยู่ที่ 89.24±11.84 คะแนน ซึ่งอยู่ในระดับดี ด้านสังคมมีคะแนนสูงสุด 93.43±13.15 คะแนน ด้านอารมณ์ 91.57±14.20 คะแนน ด้านร่างกาย 89.51±13.30 คะแนน และด้านโรงเรียนมีคะแนนต่ำที่สุดที่ 79.00±14.82 คะแนน พบว่ามีปัจจัยเดียวที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือ ภาวะซึมเศร้า
สรุป คะแนนคุณภาพชีวิตโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่สูง แต่ด้านโรงเรียนมีคะแนนคุณภาพชีวิตต่ำสุด และภาวะซึมเศร้าเป็นปัจจัยที่สัมพันธ์กับคุณภาพชีวิต การพัฒนาระบบบริการที่เติมเลือดช่วงวันหยุดลดการขาดเรียน การประเมินสุขภาพจิตในผู้ป่วยเรื้อรังและการจัดระบบการช่วยเหลือเด็กป่วยของโรงเรียนจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตได้
ที่มา
Journal of Nakornping Hospital ปี 2568, January-June
ปีที่: 16 ฉบับที่ 1 หน้า 145-157
คำสำคัญ
Depression, Quality of life, คุณภาพชีวิต, ภาวะซึมเศร้า, PEDSQL, คุณภาพชี่วิต, transfusion dependent thalassemia, CES-D, ธาลัสซีเมียพึ่งพาเลือด