บุคลากรการแพทย์ที่ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลชุมชนรักษาผู้ป่วย functional dyspepsia ด้วยยาธาตุอบเชยพบว่า ผู้ป่วยส่วนมากมีอาการทุเลาหรืออาการหายไป แต่ยังไม่มีการวิจัยทางคลินิกเพื่อประเมินประสิทธิผลและความปลอดภัยของยาธาตุอบเชยตำรับนี้วัตถุประสงค์: เพื่อทราบประสิทธิผล ความปลอดภัยของการรักษาผู้ป่วย functional dyspepsia ด้วยาธาตุอบเชยวิธีการ: การวิจัยนี้ใช้รูปแบบ Randomized controlled study ดำเนินการที่โรงพยาบาลชุมชน 6 แห่งในผู้ใหญ่ที่ได้รับการวินิจฉัยโดยอาศัยลักษณะทางคลินิกว่าเป็น functional dyspepsia จำนวน 318 คน ผู้ป่วยถูกสุ่มให้ได้รับ simethicone ขนาด 105 มก. รับประทานวันละ 3 ครั้งหลังอาหาร หรือยาธาตุอบเชยรับประทานครั้งละ 30 มล. วันละ 3 ครั้งหลังอาหารติดต่อกันนาน 7-14 วัน ผู้ป่วยได้รับการประเมินผลการรักษาภายหลังการรักษานาน 7 วัน และ 14 วัน โดยประเมินอาการทั้งหมดของผู้ป่วย ความสม่ำเสมอของการรักประทานยาที่ได้รับ ผลข้างเคียงของการรักษา และความพึงพอใจของผู้ป่วยต่อการรักษาที่ได้รับ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยสถิติเชิงพรรณนา chi-square statistics, student t-test หรือ analysis of variance หรือ non-parametric testผลการศึกษา: ผู้ป่วย 150 คนได้รับ simethicone และผู้ป่วย 168 คน ได้รับยาธาตุอบเชย ลักษณะทั่วไปของผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่มไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ป่วยร้อยละ 82 ในกลุ่ม simethicone และร้อยละ 89.3 ในกลุ่มยาธาตุอบเชย (p=0.09) รับประทานครบทุกมื้อ อาการของผู้ป่วยและความรุนแรงเฉลี่ยอาการของผู้ป่วยภายหลังการรักษาด้วย simethicone หรือยาธาตุอบเชยไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ จำนวนผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นมากหรืออาการหายไปภายหลังการรักษาด้วย simethicone หรือยาธาตุอบเชยเพิ่มขึ้นจากก่อนการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ และจำนวนผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นมากหรืออาการหายไปภายหลังการรักษาด้วย simethicone หรือยาธาตุอบเชยไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ผลข้างเคียงของการรักษาพบร้อยละ 9.3 ในกลุ่ม simethicone และร้อยละ 9.5 ในกลุ่มยาธาตุอบเชย และผู้ป่วยส่วนมากที่ได้รับ simethicone หรือได้รับยาธาตุอบเชยพึงพอใจต่อการรักษาที่ได้รับไม่แตกต่างกัน ค่าใช้จ่ายของยาธาตุอบเชยประมาณ 36 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายของ simethicone ประมาณ 84 บาท สรุป: ยาธาตุอบเชยรับประทานติดต่อกัน 14 วัน มีประสิทธิผลและความปลอดภัยในการรักษาผู้ป่วย functional dyspepsia ไม่แตกต่างจากการรักษาด้วย simethicone