การศึกษาเปรียบเทียบการใช้สารให้ความชุ่มชื้นที่ประกอบด้วย urea 5%, natural moisturizing factors, ceramide และ glyceryl glucoside กับสารให้ความชุ่มชื้นที่ประกอบด้วย urea 5% ในการรักษาภาวะผิวแห้งในผู้ป่วยเด็กโรคไตเรื้อรัง
ศิริวรรณ วนานุกูล*, สุชีรา ฉัตรเพริดพราย, เทอดพงศ์ เต็มภาคย์, ชัยสิิทธิ์ ศรีสด, ธวัชชัย ดีขจรเดช
Department of Pediatrics, Faculty of Medicine, Chulalongkorn University, Bangkok 10310, Thailand; Phone: +66-2-256-4951; E-mail: siriwanwananukul@yahoo.com
บทคัดย่อ
ภูมิหลัง: ภาวะผิวแห้งพบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง อาการคันจากภาวะนี้ทำให้ไม่สบายตัว เกิดรอยเกาทำให้คุณสมบัติในการปกป้องของผิวเสียไป
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโลชั่นที่ประกอบด้วย urea 5%, natural moisturizing factors, ceramide และ glyceryl glucoside lotion กับโลชั่นที่ประกอบด้วย urea 5% ในการรักษาภาวะผิวแห้งในผู้ป่วยเด็กโรคไตเรื้อรังที่มีอาการคงที่
วัสดุและวิธีการ: การศึกษานี้เป็นการทดลองชนิด randomized, double-blind, split-side ในผู้ป่วยเด็กโรคไตเรื้อรังที่มีอาการคงที่ จำนวน 50 ราย ที่มีภาวะผิวแห้ง ผู้ป่วยจะได้รับการสุ่มให้ได้รับ 1) สารให้ความชุ่มชื้นที่ประกอบด้วย urea 5%, natural moisturizing factors, ceramide และ glyceryl glucoside และ 2) สารให้ความชุ่มชื้นที่ประกอบด้วย urea 5% ทาคนละข้าง ของขา วันละ 2 ครั้ง นาน 4 สัปดาห์ โดยที่ขวดที่บรรจุสารทั้ง 2 ชนิด มีรูปแบบและขนาดเหมือนกัน ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินภาวะผิวแห้ง ความชุ่มชื้นของผิว และค่าการสูญเสียนํ้าผ่านผิว (transepidermal water loss, TEWL) ก่อนการศึกษาและหลังทาสารให้ความชุ่มชื้นในสัปดาห์ที่ 1, 2 และ 4
ผลการศึกษา: จำนวนผู้ป่วยทั้งหมด 47 ราย จาก 50 ราย ที่ทาสารให้ความชุ่มชื้นจนสิ้นสุดการศึกษา อายุเฉลี่ยเท่ากับ 13.43±2.3 ปี ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ชนิด สามารถลดความรุนแรงของภาวะผิวแห้งเปรียบเทียบกับก่อนการศึกษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) สารให้ความชุ่มชื้นที่ประกอบด้วย urea 5%, natural moisturizing factors, ceramide และ glyceryl glucoside เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวและลดค่าการสูญเสียน้ำผ่านผิวได้มากกว่าสารให้ความชุ่มชื้นที่ประกอบด้วย urea 5% อย่างเดียวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 1 ในด้านความปลอดภัยของการใช้ urea ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังพบว่า ค่า BUN และ creatinine ในเลือดไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ระหว่างก่อนการศึกษาและสิ้นสุดการศึกษา (p = 0.627) และไม่พบผลข้างเคียงใดๆ จากการทาสารให้ความชุ่มชื้นทั้ง 2 ชนิด
สรุป: สารให้ความชุ่มชื้นทั้ง 2 ชนิด มีประสิทธิภาพในการลดขุย ความหยาบของผิว เพิ่มความชุ่มชื้น และเพิ่มคุณสมบัติในการปกป้องของผิวในผู้ป่วยเด็กโรคไตเรื้อรังที่มีอาการคงที่ สารที่เพิ่มเติมลงไป ได้แก่ natural moisturizing factors, ceramide และ glyceryl glucoside มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้นและเพิ่มคุณสมบัติในการปกป้องของผิว ในด้านความปลอดภัย การทาผลิตภัณฑ์ที่มี urea 5% ที่ขา นาน 4 สัปดาห์ ไม่มีผลต่อระดับ BUN และ creatinine ในเลือด
 
ที่มา
วารสารจดหมายเหตุทางการแพทย์ ปี 2560, June ปีที่: 100 ฉบับที่ 6 หน้า 638-643
คำสำคัญ
Pediatric, Xerosis, Glyceryl glucoside