ภูมิหลัง: ยาขยายหลอดลมชนิดผสมระหว่าง fenoterol และ ipratropium เช่น Berodual^® เป็นยาที่จำเป็นในการรักษาผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังในระยะที่โรคกำเริบเฉียบพลันและรุนแรง อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาฤทธิ์ของ Ipraterol^® ซึ่งเป็นยาขยายหลอดลมชนิดผสมแบบเดียวกับ Berodual^® ต่อภาวะหลอดลมตีบเฉียบพลันในผู้ป่วยโรคหืดในประเทศไทย

วัสดุและวิธีการ: เพื่อศึกษาผลของการรักษาด้วย Ipraterol^® ชนิดพ่นผ่านหน้ากาก 1 ครั้ง การศึกษาทำในลักษณะ double-blind, randomized, cross-over โดยการเปรียบเทียบกับผลของการรักษาด้วย Berodual^® ชนิดพ่นผ่านหน้ากาก 1 ครั้ง ต่อหลอดลมตีบที่เกิดจากการกระตุ้นด้วย methacholine การศึกษานี้ประกอบด้วย run-in phase เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และการมาพ่นยาศึกษา 2 ครั้ง ซึ่งถูกคั่นด้วย washout period เป็นเวลา 7 วัน

กลุ่มผู้ป่วยที่นำมาศึกษา: ผู้นิพนธ์ศึกษาผู้ป่วยโรคหืดชนิดรุนแรงน้อยถึงปานกลาง จำนวน 20 ราย ที่มีอายุอยู่ระหว่าง 18-80 ปี

ผลการศึกษา: ยา Ipraterol^® ออกฤทธิ์เร็วภายในเวลา 5 นาทีในการขยายหลอดลมตีบที่เกิดจากการกระตุ้นด้วย methacholine เหมือน กับ Berodual^® โดยทำให้ค่า FEV1 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจาก 1.19 L เป็น 1.73 L (p < 0.001) และจาก 1.19 เป็น 1.69 L (p = 0.0001) ตามลำดับ และฤทธิ์นี้ของยา Ipraterol^® อยู่นาน 6 ชั่วโมง เหมือนกับ Berodual^® ค่า FEV1 ที่เวลา 360 นาทีหลังการรักษาด้วย Ipraterol^® ยังคงสูงกว่าค่า FEV1 พื้นฐาน ผู้นิพนธ์ยังพบว่าไม่มีความแตกต่างในการทำให้ค่า FEV1 ดีขึ้นและการเกิด hypokalemia หลังจากการรักษาด้วยยา Ipraterol^® และ Berodual^®

สรุป: ข้อมูลของการศึกษานี้แนะนำว่า nebulized Ipraterol^® ช่วยทำให้สมรรถภาพปอดดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดยปราศจากการดูดซึมของยาเข้าสู่กระแสโลหิตไปทำให้เกิดภาวะ hypokalemia ประสิทธิภาพในการทำให้สมรรถภาพปอดดีขึ้นเท่ากับ nebulized Berodual^®