วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของยา misoprostol ในการลดการสูญเสียเลือดหลังคลอดโดยการผ่าตัดคลอดและลดอุบัติการณ์การตกเลือกหลังผ่าตัดคลอด เพื่อศึกษาปริมาณการใช้ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกชนิดอื่นเพิ่มเติมและอุบัติการณ์ของผลข้างเคียงของยา misoprostolวัสดุและวิธีการศึกษา: เป็นการศึกษาแบบ randomized double-blinded, placebo-controlled trial ในหญิงตั้งครรภ์เดี่ยวจำนวน 120 คน ที่ได้รับการผ่าตัดคลอดและระงับการปวดด้วยวิธี spinal anesthesia ถูกสุ่มให้ได้รับยา misoprostol 60 คน และยาหลอก 60 คน ภายหลังทารกคลอดและตัดสายสะดือแล้วผลการศึกษา: ในกลุ่ม misoprostol ปริมาณการเสียเลือดเฉลี่ย 615.67±120.02 มล. และในกลุ่มควบคุมเสียเลือดเฉลี่ย 631.21±157.63 มล. ซึ่งไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p = .866) มีเพียง 1 คนในกลุ่มควบคุมที่ตกเลือดหลังคลอด ระดับ hemoglobin และ hematocrit ที่ลดลงระหว่างสองกลุ่มไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในกลุ่มควบคุมมีการใช้ methergin มากกว่ากลุ่ม misoprostol อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (ร้อยละ 23.3 และร้อยละ 5.0 ตามลำดับ, p = .004) ส่วนการใช้ nalador ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างสองกลุ่ม (ร้อยละ 10.0 ในกลุ่มควบคุม และร้อยละ 1.7 ในกลุ่ม misoprostol, p = .114) ในกลุ่ม misoprostol พบอาการหนาวสั่นมากกว่ากลุ่มควบคุม 1.57 เท่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (CI 1.15-2.14) และพบการใช้ได้มากกว่ากลุ่มควบคุม 9 เท่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (CI 1.18-68.85) ส่วนอาการคลื่นไส้ อาเจียนไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างสองกลุ่มสรุป: ยา misoprostol เป็นยาที่ออกฤทธิ์ในการกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกได้ดี สามารถนำมาใช้ร่วมกับ oxytocin ในการป้องกันการตกเลือดหลังคลอด ยามีราคาถูก สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิห้องได้ มีผลข้างเคียงยาไม่รุนแรง

วารสารแพทย์เขต 4-5 ปี 2553, July-September ปีที่: 29 ฉบับที่ 3 หน้า 325-335

ไมโซพรอสตอล, Postpartum hemorrhage, Mmisoprostol, ภาวะตกเลือดหลังคลอด