การรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกชนิดที่ไม่มีการตกไข่ โดยการรักษาด้วยยานั้น มียาที่ใช้หลายชนิด โดยยาในกลุ่มโปรเจสตินเป็นยาที่มีการใช้มากที่สุด การศึกษานี้จึงเป็นการศึกษาเปรียบเทียบผลของการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกชนิดที่ไม่มีการตกไข่ ด้วยยาทรานเอ็กซามิค เอซิดเทียบกับยานอร์เอทิสเตอโรน                ผู้ป่วยจำนวน 49 ราย ที่มาด้วยเรื่องเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก และไม่มีประวัติได้รับฮอร์โมนในช่วง 3 เดือนก่อนทำการศึกษา ได้รับการเก็บเยื่อบุโพรงมดลูกมาตรวจทางพยาธิวิทยา มีผู้ป่วยจำนวน 29 ราย ที่พบว่าเยื่อบุโพรงมดลูกอยู่ในระยะโปรลิเฟอเรทีฟ ซึ่งยืนยันว่าเป็นภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกชนิดที่ไม่มีการตกไข่จริง ทั้งหมดได้รับการสุ่มให้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 15 รายได้รับยาทรานเอ็กซามิค เอซิด และ 14 รายได้รับยานอร์เอทิสเตอโรน ผู้ป่วยทั้งหมดจะได้รับยารักษาจำนวน 2 รอบประจำเดือน และมีการติดตามลักษณะประจำเดือน, อาการ รวมทั้งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไปอีก 1 รอบประจำเดือน                ในระหว่างที่ทำการศึกษาพบว่าผู้ป่วย 1 ราย จากกลุ่มที่ได้รับยาทรานเอ็กซามิค เอซิด เกิดการตั้งครรภ์หลังจากที่ได้รับยาไปแล้ว 1 รอบประจำเดือน จึงทำให้ผู้ป่วยรายนี้ต้องออกจากการศึกษา ผลการศึกษาพบว่า ยาทั้ง 2 ชนิด สามารถทำให้จำนวนวันที่มีเลือดออก, จำนวนผ้าอนามัยที่ใช้ และปริมาณเลือดที่ออกลดลงอย่างชัดเจน โดยยานอร์เอทธิสเตอโรน สามารถลดจำนวนวันที่มีเลือดออก, จำนวนผู้อนามัยที่ใช้ และปริมาณเลือด ที่ออกได้มากกว่ายาทรานเอ็กซามิค เอซิด แต่ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ยาทั้ง 2 ชนิด ยังมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นระหว่างการศึกษาเพียงเล็กน้อย คือ ยา ทรานเอ็กซามิค เอซิด ทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย, ปวดศรีษะ และท้องอืด ส่วนยานอร์เอทธิสเตอโรน ทำให้เกิดอาการปวดท้องน้อย, ปวดศีรษะ, เวียนศีรษะ และปวดเมื่อยเนื้อตัว โดยผู้ป่วยทั้งหมดสามารถทนอาการเหล่านี้ได้ นอกจากนั้นยาทั้ง 2 ชนิดยังไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางห้องปฏิบัติการมากนักเมื่อเทียบกับก่อนได้รับยา                ยาทรานเอ็กซามิค เอซิด จึงเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกชนิดที่ไม่มีการตกไข่ โดยมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นเล็กน้อย ยาทรานเอ็กซามิค เอซิด จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาภาวะเลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูกชนิดที่ไม่มีการตกไข่ ในรายที่ไม่ต้องการผ่าตัด หรือมีข้อห้ามในการใช้ยากลุ่มฮอร์โมน