วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการเข้ากลุ่มมิตรภาพบำบัด ต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมหลังการรักษารูปแบบการศึกษา: Intervention Study วัดผลก่อนและหลังการรักษาสถานที่ศึกษา: แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ ระหว่างเดือนมกราคม 2552-กรกฎาคม 2552วิธีการศึกษา: ศึกษาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปี ขึ้นไป ที่ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัดให้ยาเคมีบำบัด หรือการฉายรังสีตามแผนการรักษาของแพทย์และมาตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอก จำนวน 30 ราย ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่เข้ากลุ่มมิตรภาพบำบัด จะได้รับการทำกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ซึ่งประกอบด้วย การให้ความรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เรื่องมะเร็งเต้านมและการเฝ้าระวังอาการอย่างต่อเนื่อง อาหารและการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับโรค การฝึกสมาธิและการผ่อนคลายความเครียด เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลและแบบวัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลก ชุดย่อฉบับภาษาไทย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยค่าที (pair t test) ก่อนและหลังการศึกษาผลการศึกษา: ผู้ป่วยทั้งหมด 30 ราย อายุเฉลี่ย 52.9 ปี มีอายุในช่วง 45-60 ปี ร้อยละ 70 การศึกษาต่ำกว่าประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 76.6 สถานภาพสมรสร้อยละ 83.3 อาชีพเป็นเกษตรกรร้อยละ 43.3 และมีอาชีพรับจ้างและรับราชการร้อยละ 23.3 เท่าๆ กัน ส่วนรายได้ต่อเดือนอยู่ประมาณ 5,000-10,000 บาท ร้อยละ 63.3 ระยะเวลาการป่วยมากกว่า 1 ปี ร้อยละ 30.0 ระยะของโรคมะเร็งเต้านม เป็นระยะที่ 2 มากที่สุดร้อยละ 80.0 มีโรคความดันโลหิตสูงร่วมด้วยร้อยละ 46.7 การรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเต้านม ร่วมกับรับยาเคมีบำบัดพบร้อยละ 80.0 หลังเข้ากลุ่มมิตรภาพบำบัด พบว่าคะแนนคุณภาพชีวิตด้านร่างกาย จิตใจ สัมพันธภาพทางสังคม สิ่งแวดล้อม และภาพรวมทั้งหมดเพิ่มขึ้นทุกด้านอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < .01) สรุป: กิจกรรมกลุ่มมิตรภาพบำบัด ทำให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีคุณภาพชีวิตทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม สิ่งแวดล้อมและภาพรวมทั้งหมดดีขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ